Creative Health & Wellbeing อยู่ดี มีสุข ชีวิตยืน
Speaker : ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน (ดร.แกง)
00.00 : Wellness และการใช้ชีวิตที่มีความหมาย
Wellness เป็นสภาวะที่ใครสักคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย และสามารถสร้างความหมายตลอดเส้นทางชีวิตและที่สำคัญการใช้ชีวิตนั้นต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของชีวิตหรือ Life Purpose Wellness นั้นเป็นองค์ประกอบยกตัวอย่างเช่น
00.27 : การสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อสุขภาวะที่ดี
การได้มีชีวิตที่สามารถออกกำลังกาย ไปเที่ยว ไปเรียนรู้ในสถานที่ต่าง ๆ ได้ ได้ใช้ชีวิตกับชุมชนได้ใช้ชีวิตกับคนที่เรารัก ได้อยู่ในสถานที่ที่มีสุขภาวะซึ่งสถานที่ที่มีสุขภาวะ และทุกคนโหยหาก็คือพื้นที่สีเขียว หรือว่า Green space ปัจจุบันนี้ประเทศไทยตั้งเป้าหมาย ที่อยากจะมีพื้นที่สีเขียวสูงกว่า 55% ของพื้นที่ประเทศไทย พื้นที่สีเขียวนี้อาจจะเป็นอุททยานแห่งชาติเป็นพื้นที่ป่าชุมชน เป็นพื้นที่ป่าเพื่อสร้างเศรษฐกิจและใช้ประโยชน์สำหรับชุมชน หรือพื้นที่สวนสาธารณะในเมืองใหญ่มหานครและในชนบทเป็นต้น การใช้พื้นที่สีเขียวนั้นมีงามวิจัยที่ระบุว่าสามารถที่จะสร้างเสริมสุขภาวะ ป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บรวมถึงสามารถที่จะเยียวยาผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยนั้นสามารถลดความดันโลหิตสูง สามารถที่จะช่วยเยียวยารักษาโรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคเรื้อรังอื่น ๆ และที่สำคัญผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีเขียวสามารถที่จะมีอายุยืนยาวมากขึ้นประมาณ 2.5 ปี ถึง 3 ปีเป็นต้น
01.24 : แนวคิด 3-30-300 กับการวางผังเมืองเพื่อสุขภาวะ
ดังนั้นการใช้พื้นที่สีเขียวจึงเป็นหัวใจหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาวะแบบองค์รวมและในปัจจุบันนะครับ มีคอนเซ็ปต์ระดับโลกที่พูดถึงเรื่องของหลักการ 3-30-300 หมายความว่าประชาชนคนหนึ่งสามารถที่จะช่วยการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างสุขภาวะให้กับตัวเอง แล้วก็ให้กับโลกได้ด้วยการที่แต่ละบ้านครับต้องมีการปลูกต้นไม้ อย่างน้อย ๆ 3 ต้นเมื่อตื่นขึ้นมาเปิดหน้าต่างออกไปจะสามารถเห็นต้นไม้ที่บ้านของตัวเองอย่างน้อย 3 ต้นและในพื้นที่ของชุมชน พื้นที่บ้านใกล้เอาเรือนเคียงควรมีพื้นที่แมกไม้สีเขียวอย่างน้อยร้อยละ 30 นั่นหมายความว่าในชุมชนหนึ่งควรจะมีการปลูกต้นไม้ และเพื่อนบ้านก็จะได้รับอนิสงฆ์จากการมีพื้นที่สีเขียวด้วยและที่สำคัญแต่ละบ้านสามารถเดินไปใช้พื้นที่สวนสาธารณะในระยะที่ไม่เกิน 300 เมตรนั่นหมายความว่าถ้าหากเราสามารถวางผังเมืองเราสามารถให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่ได้ด้วยหลักการ 3-30-300ก็จะทำให้ทุกคนได้เข้าถึงพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างสุขภาวะให้กับตัวเอง และทำให้สังคมสามารถที่จะเกิดสภาวะที่ทุกคนเกิดเป็นความน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เกิดความเอื้ออาทรต่อกัน และสามารถที่จะช่วยในการลดเรื่องของค่าใช้จ่ายทางสุขภาพได้
02.45 : การปลูกฝังค่านิยมสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเด็ก
สำหรับเรื่องของพื้นที่สีเขียวนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่พวกเราสามารถที่จะเริ่มได้ตั้งแต่วัยเด็ก นั่นหมายความว่าถ้าเผื่อเราสามารถปลูกฝังค่านิยมการรักพื้นที่สีเขียวการรักสิ่งรักสิ่งแวดล้อมค่านิยมในการสร้างความยั่งยืนเรื่องของ Green Brain Capital เป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนจะต้องร่วมสร้างตั้งแต่วัยเด็กถ้าหากเราสามารถที่จะผูกฝังค่านิยมการรักความยั่งยืน ค่านิยมการรักพื้นที่สีเขียว Green space หรือแม้กระทั่งค่านิยมการรัก Blue space พื้นที่สีน้ำเงินกิจกรรมต่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนสาธารณะพื้นที่ป่า พื้นที่แหล่งน้ำน้ำตกและทะเล จะสามารถเป็นพื้นที่ที่ทุกคนในโลกใบนี้สามารถใช้ร่วมกัน และสิ่งต่างที่เราพูดถึงจะเป็นประโยชน์ในการสร้างสุขภาวะองค์รวม องค์รวมในที่นี้หมายถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ สัตว์ป่า พืช คน ทำให้เกิดเป็นเรื่องของ One Health หรือว่าสุขภาพองค์รวมที่ทุกคนจำเป็นจะต้องผนึกความร่วมเมืองร่วมกัน สำหรับวันนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ว่าเรื่องของหลักการ Health and Well being เป็นเรื่องที่คนสามารถร่วมมือกันได้ ในการที่จะช่วยกันพัฒนาชุมชนและสามารถส่งมอบคุณค่าให้สังคมไทยและสังคมโลกไปพร้อม ๆ กัน
03.58 : 9 มิติของ Wellness ที่ครอบคลุมทุกด้านของชีวิต
พอดีมีเวลาเหลือนิดหนึ่งผมขออนุญาตเสริมเรื่องของ Wellness ว่าจริงแล้ว Wellness มีองค์ประกอบย่อย ๆ อยู่หลายองค์ประกอบเดี๋ยวเรามารู้จักกับ Wellness ให้มากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วเรื่องของ Wellness นั้นเราอาจจะแบ่งออกเป็น 9 มิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Wellness ทางกาย Physical Wellness นั่นหมายความว่าเราสามารถใช้ชีวิตเดินไปไหนมาไหนได้ ออกกำลังกายได้อย่างมีความสุข Emotional wellness หรือ wellness ทางด้านอารมณ์ การเข้าใจความรู้สึกของตนเอง และจัดการกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องของสติปัญญา Intellectual Wellness นั่นคือ เราสามารถที่จะเกิดกระบวนการรู้คิดกระบวนการวิเคราะห์ แล้วก็วางแผนให้เกิดการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า Social Wellness มีครอบครัวมีชุมชนมีความเอื้ออาทรต่อกัน Spiritual Wellness เรื่องจิตวิญญาณที่ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่เคารพ สักการะ ศรัทธาเหนือสิ่งใดการเคารพศรัทธานี้ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอกแต่เป็นเรื่องของ Spiritual ที่เกิดในตัวของเรานั่นคือเราต้องมี Life Purpose ต้องมีเป้าประสงค์ของชีวิต Environmental Wellness สิ่งแวดล้อมทุกอย่างเรื่องของดิน เรื่องของน้ำ เรื่องของต้นไม้ เรื่องของอากาศ ล้วนแต่ส่งผลต่อชีวิตของพวกเราโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาวะ Recreational Wellness กิจกรรมนันทนาการ การได้ออกกำลังกาย การได้วิ่งการได้ปั่นจักรยาน หรือแม้กระทั่งกิจกรรมศิลปะหรือกิจกรรมที่เป็นงานคราฟ์ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมนันทนาการที่สร้างเสริมสุขภาวะ Financial Wellness ต่อไปเป็นเรื่องที่สำคัญ ต่อให้เรามีเงินน้อยแต่ถ้าเรารู้จักการใช้เงิน รู้จักว่าสิ่งที่เราใช้จ่ายนั้นสอดคล้องกับเป้าประสงค์ของชีวิต นั่นคือเราสามารถมี Wellness ได้ Digital Wellness และเรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องของ ทุกวันนี้ไอที ดิจิทัลเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต ผู้คนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่เป็นเด็ก เป็นวัยกลางคน วัยแรงงาน หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุถ้าหากสามารถใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีได้อย่างฉาดฉลาดใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีได้สอดคล้องกับเป้าประสงค์ของชีวิต เมื่อนั้นทุกคนก็จะเกิดสุขภาวะ และเกิด Wellness ครบทั้ง 9 มิติ
05.50 : Summary
ทั้งหมด 0 ความคิดเห็น