D-Tech Open Mic. : Doomscrolling โรคทางดิจิทัลทำลายสุขภาพจิต
D-Tech Open Mic. : Doomscrolling โรคทางดิจิทัลทำลายสุขภาพจิต
Speaker: Mafuang
00:00 - รู้จักกับ Doomscrolling โรคทางดิจิทัลที่คุณอาจไม่รู้ตัว
วันนี้นะคะ ไหน ๆ เฟืองก็เป็น Therapist เฟืองทำงานด้านสุขภาพจิต อยากจะพูดถึงพฤติกรรม ๆ หนึ่ง ที่เฟืองเชื่อว่าเวลาพูดไป รู้สึกว่ามันนิดเดียวเอง มันไม่เห็นใหญ่ขนาดนั้นเลย ทำไมมันถึงกระทบกับสุขภาพจิตเราขนาดนี้ สิ่งนี้เรียกว่า Doomscrolling หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยิน Doomscrolling คืออะไร ทำไมศัพท์มันยากขนาดนี้ จริง ๆ แล้ว Doomscrolling มันคือการที่เราถือมือถือไปเรื่อย ๆ แล้วก็เลื่อนฟีดไปเรื่อย ๆ ตอนแรกเฟืองเชื่อว่าหลายคนเวลาเราเปิดขึ้นมาดูอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น X ไม่ว่าจะเป็น Facebook ไม่ว่าจะเป็น YouTube หรือว่า Instagram เฟืองเชื่อว่าหลายคนมีในใจอยู่ว่าอยากดูอะไร บางคนอาจจะเป็นอะไรง่าย ๆ เลย คลิปหมา คลิปแมว หรือว่าดูข่าวอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Doomscrolling คือเราจะเลื่อนไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย อย่างไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งสิ่งนี้มันกระทบกับสุขภาพจิตเรามากกว่าที่คิด ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เพราะว่านี่มันคือสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่ มันจะถึงจุดสิ้นสุด แล้วมันมี Study นะคะ ซึ่งเฟืองขอโทษด้วย เฟืองลืมว่ามันมาจากไหน เพราะเฟืองฟังใน Podcast
01:17 - Case Study เสพติดข่าวร้าย สะใจกับความเจ็บปวด
Study นี้ค่ะเขาบอกว่า จริง ๆ แล้วเวลาที่คนเสพโซเชียลมีเดียไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ตัวเราเองจะนึกว่าเรามีในใจ ว่าเราอยากดูอะไร แต่จริง ๆ แล้วการรู้สึกเสพติดนั้นค่ะ มันเกิดขึ้นเพราะว่า เราจะเสพติดกับการที่ว่า มันจะมีอะไรป้อนมาให้เรา มันกลายเป็นว่าเรารู้สึกตื่นเต้น ว่ามันจะมีอะไรป้อนมาให้เรา ดังนั้นเราเลยหยุดไม่ได้สักที เพราะว่าเราเสพติดกับความรู้สึกว่ามันจะมีอะไรป้อนมาให้เราเรื่อย ๆ ทีนี้ถามว่าก็หยุดเสพสิ ทำไมถึงไม่หยุดเสพ คนเราแทบจะทุกคน แล้วเฟืองรู้เวลาเฟืองพูดเรื่องนี้ ทุกคนจะเออ ๆ จริงด้วย เพราะว่า เราลึก ๆ เรารู้ว่า เราอยากได้อะไรที่มันโลกสวย เราอยากได้ความ Positive เราอยากได้สิ่งดี ๆ แต่คนเรามักจะมี Pleasure หรือว่ามีความสุขแบบสะใจแบบแปลก ๆ กับความเจ็บปวด กับเรื่องที่ไม่ดี หรือกับเรื่อง Negative ถามว่ายกตัวอย่างง่าย ๆ เลย เช่นบางคนบอกว่าชอบกินเผ็ดมาก ชอบกินเผ็ดมาก แต่เวลากินก็คือเหงื่อไหล จมูกแดงไปหมดเลย บางคนอย่างเฟืองอย่างนี้เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง รู้ว่าห้ามเกา แต่ก็ชอบเกา เกาแล้วก็เป็นแผลเหวอะ มันเหมือนกันเลยหลายคน
02:32 – Doomscrolling กับ ความสัมพันธ์
และเฟืองขอโยงเข้าเรื่องความสัมพันธ์ บางทีเฟืองรู้เลยว่าหลายคนเป็น เวลาเราเริ่มค้นมือถือแฟน เราจะอยู่ค้นไม่ได้ เพราะเราตั้งในใจไว้แล้วว่า เราต้องเจออะไรสักอย่างหนึ่ง เราต้องหาอะไรที่แย่ ๆ เจอ แล้วใจเรามันก็จะโฟกัสที่ความแย่ เหมือนกันกับ Doomscrolling เลยทุกคน เวลาที่เราเสพข่าวที่มัน Negative เท่าไหร่ เราจะรู้สึกว่ามันต้องมีข่าวที่ลบ มีข่าวที่ Negative ได้มากกว่านี้ ดังนั้นเราก็เลยจะเสพ ๆ ไปเรื่อย ๆ เพราะเราคิดไปเอง ว่าถ้าเรายิ่งรู้เยอะเท่าไหร่ เรายิ่งรู้แย่เท่าไหร่ เรายิ่งรู้ข่าวที่ทำให้สภาพจิตใจมันหม่นหมองมากเท่าไหร่ค่ะ เราจะรู้สึกว่าสถานการณ์นี้เราควบคุมได้ ลึก ๆ เราจะรู้สึกปลอดภัยเพราะว่า เรารู้เยอะ และเราหมด ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้เยอะแค่ไหน มันยิ่งทำให้เรารู้สึก Anxiety คือความรู้สึกวิตกกังวล ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ความรู้สึกว่าโลกนี้เราสามารถหาความสงบไม่ได้เลย
03:34 - พักผ่อนด้วยหน้าจอ ≠ พัก
ดังนั้นเฟืองอยากฝากตรงนี้ไว้ด้วยนะคะ การ Doomscrolling ซึ่งหลายคนนะมักจะทำ โดยเฉพาะเลยเวลาที่ใครทำงานเสร็จแล้ว เวลาที่ใครเครียดจากงานมากเลยอยากพัก เวลาที่คุณพักแล้วคุณใช้เวลาพักไปกับหน้าจอ ซึ่งมันเป็นโหมดเดียวกันกับเวลาที่คุณทำงานเลย เฟืองเชื่อว่าหลายคนทำงานหน้าจอเหมือนกัน ร่างกายเรามันปรับไม่ได้นะ ว่าตอนนี้เรากำลังพักอยู่ ดังนั้นเฟืองอยากเชิญชวนเวลาที่คุณพัก คุณทำอะไรที่ต่างออกไปจากการทำงาน ยืนที่ระเบียง ดูนก ดูท้องฟ้า อันนี้คือหนึ่งในวิธีการพักที่ดีมาก นั่งเฉย ๆ ฟังเพลง ปั้นดินน้ำมัน ระบายสีวาดรูปอะไรก็ได้ ให้ร่างกายเรารับรู้จริง ๆ ว่ามันคนละโหมดกับการทำงานอยู่นะ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากคือจำกัดเวลาค่ะทุกคน เวลาที่เราจำกัดเวลาการเสพสื่อ เรากำลังบอกสื่ออยู่ว่าฉันเป็นเจ้านายเธอนะ เธอไม่ได้เป็นเจ้านายของฉัน ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามพอหมดเวลาปั๊บ เราให้เวลาตัวเอง 1 ชั่วโมง พอหมด 1 ชั่วโมงปั๊บ เราเคารพตัวเอง เราซื่อสัตย์กับตัวเอง เราถอยออกมาจากการเสพสื่อ เราก็ไปทำอะไรของเราที่เป็นชีวิตประจำวันต่อ การเคารพตัวเองนี้การสร้าง Boundary ให้ตัวเองนี้ มันจะทำให้เราภูมิใจ แล้วเราจะสัมผัสได้กับตัวเอง ว่าเราจะไม่ตกเป็นทาสของสื่อ
04:52 - การกินดี อยู่ดี จุดเริ่มต้นสุขภาพจิตดี
สุดท้ายเลย เอาง่าย ๆ เลยนะทุกคน เดี๋ยวนี้ถึงแม้ว่าเฟืองจะเป็น Therapist เอง เฟื่องคุยเรื่องสุขภาพจิต ว่าโอเคในชีวิตมีใครทำให้คุณรู้สึกเจ็บใจบ้าง การกินดี อยู่ดี คือเรื่องง่าย ๆ ที่คนชอบลืม ที่จะทำให้สุขภาพจิตดี บางทีเวลาเฟืองตื่นมา แล้วเฟืองรู้สึกว่า ทำไมวันนี้เราหงุดหงิดเป็นพิเศษ มีใครพูดอะไรหรือเปล่าให้เราหงุดหงิด ใม่ใช่เฟืองนอนไม่พอ ไม่ใช่เฟืองเล่นมือถือเยอะไป ไม่ใช่เฟืองกินไม่ดี แค่นั้นเองเลย การกินอยู่ดี กลับมาที่เรื่องเบสิคเลยค่ะ เวลาที่กลับมาสู่สุขภาพจิต หน้าจอทำอย่างไรดี ให้เราเป็นเจ้านายเขา ไม่ใช่ให้เขามาเป็นเจ้านายของเรา ฝากไว้เท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
05:34 - Summary
ทั้งหมด 3 ความคิดเห็น
อ่านครั้งสาม.... จับใจความว่า ต้องมีวินัยและซื่อสัตย์ต่อตนเองด้วยKorsin 3 มิ.ย. 2567 15:32
การกินดี อยู่ดี จุดเริ่มต้นสุขภาพจิตดี ...... เพราะ ฉะนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด คือ จะทำอย่างไรให้มีการกินดี อยู่ดีKorsin 1 มิ.ย. 2567 15:11
บางครั้ง มันก็ซับซอ้น มากเกินไปKorsin 30 พ.ค. 2567 11:36